ในปี พ.ศ. 2548 มีข้อกำหนดและหลักเกณฑ์ทั้งหมด 6 ข้อสำหรับมรดกโลกทางวัฒนธรรม และ 4 ข้อสำหรับมรดกโลกทางธรรมชาติในการพิจารณาให้เป็นแหล่งมรดกโลก รายงานเรื่อง แหล่งท่องเที่ยวมรดกโลกที่น่าสนใจ (จัตุรัสดูโอโมแห่งปิซ่า) เป็นสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงและมีความงดงาม ควรค่ากับการมาเยี่ยมชม Campo dei Miracoli หรือ ที่ได้รับลงทะเบียนเป็นมรดกโลกในชื่อ จัตุรัสดูโอโมแห่งปิซา คือบริเวณที่ล้อมรอบด้วยกำแพง ใจกลางเมืองปิซา แคว้นทัสเคนี ประเทศอิตาลี ประกอบไปด้วยสิ่งก่อสร้างหลัก 4 อย่าง ได้แก่ มหาวิหารปิซา (Duomo) หอเอน (Torre) หอศีลจุ่ม(Baptistery) ..และสุสาน (Camposanto)ส่วนคำว่า"กัมโป เดย์ มีราโกลี"นั้นแปลว่า"จัตุรัสอัศจรรย์"ซึ่งต่อไปนี้จะกล่าวถึงรายลเอียดของจัตุรัสดูโอโมแห่งปิซ่า ข้อมูลหล่าวนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจ และจะทำให้ท่าน ได้รับความรู้เพื่มขึ้นจากรายงานนี้
หลักเกณฑ์ทางวัฒนธรรม
- เป็นตัวแทนในการแสดงผลงานชิ้นเอกที่จัดทำขึ้นด้วยการสร้างสรรค์อันชาญฉลาดของมนุษย์
-เป็น สิ่งที่มีอิทธิพลยิ่ง ผลักดันให้เกิดการพัฒนาสืบต่อมาในด้านการออกแบบทางสถาปัตยกรรม อนุสรณ์สถาน ประติมากรรม สวน และภูมิทัศน์ ตลอดจนการพัฒนาศิลปกรรมที่เกี่ยวข้อง หรือการพัฒนาการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ซึ่งได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง หรือบนพื้นที่ใดๆ ของโลกซึ่งทรงไว้ซึ่งวัฒนธรรม
-เป็นสิ่งที่ยืนยันถึงหลักฐานของวัฒนธรรมหรืออารยธรรมที่ปรากฏให้เห็นอยู่ในปัจจุบันหรือว่าที่สาบสูญไปแล้ว
-เป็น ตัวอย่างอันโดดเด่นของประเภทของสิ่งก่อสร้างอันเป็นตัวแทนของการพัฒนาทาง ด้านวัฒนธรรม สังคม ศิลปกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อุตสาหกรรม ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ
- เป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของวัฒนธรรมมนุษย์ ขนบธรรมเนียมประเพณีแห่งสถาปัตยกรรม วิธีการก่อสร้าง หรือการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ซึ่งเสื่อมสลายได้ง่ายจากผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมตาม กาลเวลา
- มีความคิดหรือความเชื่อที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเหตุการณ์ หรือมีความโดดเด่นยิ่งในประวัติศาสตร์
-เป็น ตัวอย่างที่เด่นชัดของการเป็นตัวแทนในวิวัฒนาการสำคัญต่างๆในอดีตของโลก เช่น ยุคสัตว์เลื้อยคลาน ยุคน้ำแข็ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาความหลากหลายทางธรรมชาติบนพื้นโลก -เป็น ตัวอย่างที่เด่นชัดในการเป็นตัวแทนของขบวนการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญทางธรณี วิทยาหรือวิวัฒนาการทางชีววิทยา และปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์ต่อสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติที่กำลังเกิดอยู่ เช่น ภูเขาไฟ เกษตรกรรมขั้นบันได -เป็นแหล่งที่เกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่มีเอกลักษณ์หายากหรือสวยงามเป็นพิเศษ เช่น แม่น้ำ น้ำตก ภูเขา

วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1964 รัฐบาลอิตาลี พยายามหยุดการเอียงของหอเอนเมืองปิซา โดยผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เช่น วิศวกร นักคณิตศาสตร์ และนักประวัติศาสตร์ โดยใช้เหล็กรวมกว่า 800 ตัน ค้ำไว้ไม่ให้หอล้มลงมา
ค.ศ.1987 หอเอนเมืองปิซาถูกประกาศให้เป็นมรดกโลก โดยเป็นส่วนหนึ่งของ Piazza Dei Miracoli หอเอนเมืองปิซายังเป็น 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางอีกด้วย
นอกจากนี้หอเอนเมืองปิซานี้ช่วยให้กาลิเลโอ นักวิทยาศาสตร์ ชาวอิตาเลียน ผู้มีชื่อเสียงของโลก ได้ทดลองความจริง เรื่องน้ำหนักของของที่ตกเป็นผลสำเร็จอีกด้วย*


ภาพมุมกว้างบริเวณหอเอน ลานนี้เรียกว่า Piazza del Duomo เป็นที่ตั้งของ Batistry และ The Cathedral Baptistry สร้างในปี ค.ศ. 1260

เริ่มสร้างเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ.1173 สร้างเสร็จเมื่อปี 1350 โดย โบนันโน ปิซาโน (Bonanno Pisano)ใช้เวลาสร้างประมาณ 175 ปี แต่การก่อสร้างหยุดชะงักเมื่อสร้างไปได้ถึงชั้น 3 เนื่องจากพื้นใต้ดินเป็นพื้นดินที่นิ่ม ทำให้ยุบตัว ทำให้หอระฆังแห่งนี้เริ่มเอียงไปในทิศตะวันตกเฉียงใต้ตั้งแต่การก่อสร้างทำไปได้ถึงเพียงชั้นที่ 3 ต่อมาในปี ค.ศ.1272 โดย Giovanni di Simone สร้างให้เอนกลับไปอีกด้านหนึ่งเพื่อให้สมดุล แต่การก่อสร้างในครั้งนี้ ก็ต้องหยุดชะงักลงอีกครั้งเนื่องจากเกิดสงคราม ต่อมาก็มีการสร้างหอต่อขึ้นอีกและสร้างเสร็จ 7 ชั้น ในปี ค.ศ.1319 แต่หอระฆังถูกสร้างเสร็จในปี ค.ศ.1372 โดยใช้เวลาสร้างทั้งหมด 177 ปี ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างที่ใช้เวลาสร้างนานที่สุดในโลก พอสร้างเสร็จฐานก็ทรุดลงไปข้างหนึ่ง ทำให้เอียงออกไปจากเส้นดิ่ง 4 เมตร แต่ที่ไม่ล้มลงมา เพราะแรงที่จุดศูนย์ถ่วง เมื่อลากดิ่งลงมาไม่ออกนอกฐานจึงไม่ล้มยังทรงตัวอยู่ได้
Bonanno Pisano
♥♥♥สรุป♥♥♥
เมืองปิซ่าเป็นเมืองนี้มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามและมีชื่อเสียงนั้นคือจัตุรัสดูโอโมแห่งปิซาคือบริเวณที่ล้อมรอบด้วยกำแพง ใจกลางเมืองปิซา แคว้นทัสเคนี ประเทศอิตาลี ส่วนคำว่า "กัมโป เดย์ มีราโกลี" นั้นแปลว่า "จัตุรัสอัศจรรย์"เปียซ่า เดล ดูโอโม (Piazza del Duomo) ซึ่งเป็นจัตุรัสที่ได้รับการขนานนาม ว่า "Campo dei Miracoli” หรือ " ทุ่งมหัศจรรย์ ” เพราะเป็นที่ตั้งของหอคอยที่โด่งดัง และ โบสถ์สำคัญ ๆ ที่สง่างามหลายแห่ง ดูโอโม (Duomo) เป็นหนึ่งในตัวอย่างของ สถาปัตยกรรมสไตล์ โรมันเนสค์ (Romanesque) ซึ่งผสมผสานด้วยศิลปะแบบอิสลาม โกธิค และ โรมัน มี อายุตั้งแต่ คริสตศตวรรษที่ 5 – คริสตศตวรรษที่ 6ประกอบไปด้วยสิ่งก่อสร้างหลัก 4 อย่าง ได้แก่1.หอเอนเมืองปิซ่าเป็นหอทรงกระบอก 8 ชั้น สร้างด้วยหินอ่อนสีขาว ค.ศ.1987 หอเอนเมืองปิซาถูกประกาศโดยยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก โดยเป็นส่วนหนึ่งของ Piazza DeสMiracoli หอเอนเมืองปิซายังเป็น 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางอีกด้วย
สถานที่ท่องเที่ยวที่ใกล้หอเอนปิซา

สุสานแคมโปซองโต ซึ่งขึ้นในปี 1278 โดย Giovanni di Simone ตามตำนานกล่าวว่า ดินที่ใช้ใน การสร้างสุสานแห่งนี้นั้น ถูกนำมาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และเชื่อว่า เป็นสิ่งมหัศจรรย์ มีเพียง พวกอาจารย์ที่มีชื่อเสียง และ สมาชิกครอบครัว เมดิแคน( Medicean family) เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ถูกนำร่างมาฝังไว้ ณ ที่นี้สุสานแคมโปซองโต ซึ่งขึ้นในปี 1278 โดย Giovanni di Simone ตามตำนานกล่าวว่า ดินที่ใช้ใน การสร้างสุสานแห่งนี้นั้น ถูกนำมาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และเชื่อว่า เป็นสิ่งมหัศจรรย์ มีเพียง พวกอาจารย์ที่มีชื่อเสียง และ สมาชิกครอบครัว เมดิแคน( Medicean family) เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ถูกนำร่างมาฝังไว้ ณ ที่นี้

สวนพฤกษศาสตร์ (Botanical Gardens) ตั้งอยู่ในใจกลางกรุง ปิซา เดินจากหอเอนเพียง สองสามนาทีก็ถึง สวนอันงดงามแห่งนี้ ถูกพบในช่วงปี 1540 นอกจากจะเป็น สวนพฤกษศาตร์ที่เก่าแก่ ที่สุดในยุโรปแล้ว ยังเป็นแหล่งรวมของ หุ่นจำลองต่างๆ จากทั่วโลกอีกด้วย ปัจจุบัน สวนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในพื้นที่ของมหาวิทยาลัย และ เป็นสถานที่สำหรับพักผ่อนได้เป็นอย่างดี สวนพฤกษศาสตร์ (Botanical Gardens) ตั้งอยู่ในใจกลางกรุง ปิซา เดินจากหอเอนเพียง สองสามนาทีก็ถึง สวนอันงดงามแห่งนี้ ถูกพบในช่วงปี 1540 นอกจากจะเป็น สวนพฤกษศาตร์ที่เก่าแก่ ที่สุดในยุโรปแล้ว ยังเป็นแหล่งรวมของ หุ่นจำลองต่างๆ จากทั่วโลกอีกด้วย ปัจจุบัน สวนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในพื้นที่ของมหาวิทยาลัย และ เป็นสถานที่สำหรับพักผ่อนได้เป็นอย่างดี
บรรณานุกรม
http://www.wonder7th.com/2leaning_tower_pisa.htm
http://www.mr-know.com/travel/